จากประเด็นไทยจะจัดการประชุมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ซึ่งไม่ได้เป็นการประชุมในกรอบอาเซียน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ขณะนักวิเคราะห์ มองว่าการกระทำของรัฐบาลรักษาการของไทยเสี่ยงเป็นการให้ความชอบธรรมต่อรัฐบาลทหารเมียนมา และถือเป็นท่าทีที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่นอกเหนือฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน
รมว.กต.อาเซียน เมิน ประชุมหารือแบบไม่เป็นทางการเรื่องเมียนมาในไทย
เลขา ครป. ร้อง “ดอน” ยุติบทบาท หลังเชิญเมียนมาร่วมการประชุมไม่เป็นทางการ
ล่าสุด กระทรวงต่างประเทศ ออกมาชี้แจงการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ว่า
วันที่ 19มิถุนายน 2566 ไทยจะจัดการประชุมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ซึ่งไม่ได้เป็นการประชุมในกรอบอาเซียน แต่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเมียนมา
โดยไทยได้แจ้งอย่างเป็นทางการต่อที่ประชุม ASEAN Regional Forum (ARF) ของอาเซียนที่กรุงพนมเปญเมื่อปี 2565 ว่า ไทยจะดำเนินการให้มีการพูดคุยเพื่อหาวิธีซึ่งจะได้มาเพื่อการแก้ปัญหาในเมียนมาอย่างสันติในทุกกรอบ รวมทั้งในกรอบ 1.5 ซึ่งครอบคลุมการประชุมทั้งภาคราชการและวิชาการ ซึ่งสมาชิกอาเซียนรับทราบและไม่มีผู้คัดค้าน
ขณะเดียวกัน ไทยเคยจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับเมียนมาแล้วหลายครั้ง ในหลากหลายรูปแบบและหลายระดับ ซึ่งได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งทุกครั้ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอาเซียนทราบและเชิญเข้าร่วมการประชุมด้วย
รวมทั้งเคยจัดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย รวมทั้งพบกับผู้แทนของสหประชาชาติในโอกาสต่อมา ตลอดจนจัดให้นักธุรกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในของเมียนมาได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของเมียนมาโดยตรง ทำให้ปัญหาหลายประการคลี่คลายไปได้คำพูดจาก เว็บสล็อต ดีที่สุดในไทย
นอกจากนั้น ไทยเคยจัดให้ภาคส่วนที่สนใจในการหาทางแก้ไขปัญหาเมียนมาโดยวิธีสันติ ตลอดจนนักวิชาการ มาร่วมการสัมมนาในหัวข้อที่สำคัญ เช่น ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและสามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ โดยเน้นว่าจะไม่มีการนำเอาเรื่องที่พูดคุยกันออกมาเปิดเผยเพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไทยให้ความสำคัญกับการทูตและการเจรจาในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี
สื่อนอกเผย “ดอน” ส่งจดหมายเชิญเมียนมา-อาเซียน ประชุมไม่เป็นทางการ
ซึ่งการพูดคุยเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของการทูตทั่วโลก เพื่อแสวงหาทางออกโดยสันติ ซึ่งหลักการของอาเซียนก็เน้นย้ำการปรึกษาหารือ (consultations) การร่วมมือ (cooperation) และฉันทามติ (consensus) ตั้งแต่อาเซียนเพิ่งเริ่มก่อตั้ง ทั้งยังเน้นเรื่องการไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในระหว่างกัน ทำให้อาเซียนสามารถเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการเมืองมาได้ถึงปัจจุบัน จนทำให้เกิดคำที่เรียกว่า ความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN Centrality) จากความเป็นปึกแผ่นและมีเอกภาพ ทำให้อาเซียนสามารถมีบทบาทนำท่ามกลางความท้าทายและความหลายหลากของประเทศสมาชิก
ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเมียนมาถึง 2,400กิโลเมตร ไทยต้องการเห็นสันติภาพและเสถียรภาพกลับคืนสู่เมียนมาอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกโดยสันติวิธีและยุติการใช้ความรุนแรง การสู้รบตามชายแดนมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย ทั้งด้านการค้าชายแดนที่มีมูลค่ากว่า ๒ แสนล้านบาทความมั่นคงทางพลังงาน การลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบค้าอาวุธ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาประจำที่เกิดขึ้น โดยไทยไม่อาจรั้งรอในการแก้ปัญหาได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับประชาชนเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีการจัดตั้ง Humanitarian Task Force โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน และได้ประสานงานองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ของสหประชาชาติ โดยได้ให้ความช่วยเหลือทั้งโดยตรงต่อเมียนมา และร่วมกับอาเซียน ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นในภาวะภัยการสู้รบและภัยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้จะมีผู้แทนระดับสูงจาก ลาว กัมพูชา เมียนมา อินเดีย จีน บรูไน เวียดนาม เข้าร่วม